เผย! ผลสำรวจมากกว่าครึ่งเคยทำแท้ง
นพ.กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ผู้อำนวยการกองอนามัยเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้น่าเป็นห่วงวัยรุ่นที่นิยมซื้อยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินมารับประทานเองหลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะส่วนใหญ่จะไม่ทราบวิธีใช้ที่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับสุขภาพ อาทิ ประจำเดือนมาไม่ปกติ กะปริบกะปรอย จนถึงขั้นท้องนอกมดลูกได้ เพราะยาดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ที่ถูกข่มขืนหรือถุงยางอนามัยรั่วหรือหลุดหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่วัยรุ่นกลับใช้วิธีดังกล่าวแทนการทานยาคุมกำเนิดชนิดแผงและการใช้ถุงยางอนามัย
"การใช้ยาคุมกำเนิดดังกล่าวยังเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากถึง 25% เพราะต้องทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ แต่จะได้ผลดีต้องทานภายใน 24 ชั่วโมง และตามด้วยเม็ดที่สองภายใน 12 ชั่วโมงถัดจากทานเม็ดแรก ผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเกินกว่าข้อบ่งชี้ที่ไม่ควรทานเกินเดือนละ 4 เม็ด หากเกินจะทำให้มีประจำเดือนมาไม่ปกติและอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้" นพ.กิตติพงศ์กล่าว
ศ.นพ.วรพงศ์ ภู่พงศ์ ผู้แทนสภาวิชาการคุมกำเนิดแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อมูลการวิจัยของสภาวิชาการฯ พบว่าผู้หญิงกว่า 123 ล้านคนทั่วโลกมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คุมกำเนิด และกว่า 85% หญิงตั้งครรภ์ภายในปีแรก แต่พบว่า มีการใช้คุมกำเนิดเพียง 7% ของหญิงทั่วโลกเท่านั้น ในจำนวนนี้ กว่า 46 ล้านคนทั่วโลกตัดสินใจทำแท้ง และในจำนวนนี้ 27 ล้านคนอยู่ในทวีปเอเชีย ซึ่งเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยทำให้หญิงทั่วโลกเสียชีวิตปีละ 7.8 หมื่นราย
"การทำแท้งทรมานมาก...."
คุยกันด้วยเหตุผลน่ะครับ อย่าเพิ่งไปด่าผู้หญิงที่ไปทำแท้งฝ่ายเดียว ถ้าคุณไปนั่งคุยกับผู้หญิงที่เคยทำแท้ง คุณอาจเห็นใจเขามากกว่าที่คิดน่ะครับ (ไม่เกี่ยวกับพวกรักสนุก ชอบเที่ยวน่ะครับ) ผมคิดว่า ผู้ชายที่ทิ้งผู้หญิงที่ท้องให้แก้ปัญหาฝ่ายเดียว จนบีบบังคับให้ผู้หญิงไปทำแท้ง มันก็ไม่ต่างการที่ผู้หญิงไปทำแท้งน่ะครับ ถ้าฝ่ายชายมีความรับผิดชอบ หรือยอมรับลูกในท้องของผู้หญิง ผมคิดว่า ปัญหาการทำแท้งจะลดลงไปเยอะน่ะครับ ส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงทำแท้ง ก็เพราะ ผู้ชายมันไม่รับเป็นพ่อเด็ก ไม่ยอมแต่งด้วยนี่แหล่ะครับ ผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าท้องเขากล้าที่จะรับปัญหาน่ะครับ แต่เมื่อใดที่ไม่มีฝ่ายชายมาช่วยแบกปัญหา เขาก็จะรับกับเรื่องตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน ก่อนที่ผู้ชายอย่างเราๆ จะด่าผู้หญิง ที่มีปัญหา ต้องมองย้อนกลับมาดูที่ตัวเราเองก่อนน่ะครับ ว่าเรารับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำไปได้ดีพอหรือยังน่ะครับ การมีเซกซ์ไม่ผิดน่ะครับ แต่เซกซ์ในวัยเรียน คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณพร้อมที่จะรับหรือบังเอิญที่จะรับสิ่งที่จะตามมาได้หรือไม่ ถ้าไม่พร้อมจะรับ คุณก็ต้องเซฟตัวเองด้วยการใส่ถุงยางน่ะครับ เรื่องเท่านี้ ฝ่ายชายที่มีเซกซ์กับแฟนประจำ ก็หัดพกถุงยางไว้ ปัญหาก็จะไม่เกิด อย่าเอาอารมณ์อยากเสียวแค่แว้ปเดียวมาเป็นตัวให้เกิดปัญหาตามมาน่ะครับ ส่วนผู้หญิงที่คิดจะทำแท้งตอนนี้น่ะครับ ผมแนะนำให้ลองไปคุยกับคนที่มีประสบการณ์ท้องในวัยเรียน พูดง่ายๆ ท้องก่อนแต่งนั่นแหล่ะครับ บางคนเขาก็เคยคิดหาทางออกโง่ๆแบบนี้มาแล้ว แล้วเขาก็เปลี่ยนใจที่จะไม่ทำแท้งน่ะครับ ลองถามความรู้สึกที่เขามีลูกดูน่ะครับว่าเขาคิดยังไง และลองถามคนที่เคยทำแท้งน่ะครับว่า เขาคิดยังไง ผมว่าคุณต้องได้คำตอบที่คุณต้องการแน่ๆครับ
ทำแท้ง ถ้ารู้จริง จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก by-หมอแมว-
เรื่องนี้ผมตั้งท่าจะเขียนมาหลายวันมากแล้วล่ะครับ แต่ว่าเนื่องจากมันเป็ฯเรื่องใหญ่มากที่ไม่รู้จะเขียนในแง่มุมไหนดี เลยทำให้ตั้งท่าอยู่นาน วันนี้ตั้งใจแล้วว่าจะเขียนซะทีเอาเป็นว่าเขียนได้ไม่เต็มก็มีตอนสองแล้วกันที่ตั้งใจจะเขียนก็เพราะว่าเมื่อก่อนเคยไม่ชอบคนที่ไปทำแท้งมาอย่างมาก เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีบาปหนักหนามาก และเคยคิดว่าเป็นเรื่องวัยรุ่นใจแตก...........ความเห็นของผมเปลี่ยนไปเมื่อคนไข้คนแรกเรื่องทำแท้งของผมสมัยเรียนนั่นเอง.... เธอเป็นแม่ลูก4อายุ40ปี.. ลูกก็เป็นลูกจากพ่อคนเดิม สาเหตุที่ทำให้เธอไปทำแท้งคือไม่มีจะเลี้ยง วิธีทำแท้งที่ใช้กันในสมัยนี้ตามสถานที่ทำแท้งเถื่อนมีหลายวิธี(ผมขอไม่เรียกว่าคลีนิกแล้วกัน มันแสลงหู)1. ใส่อุปกรณ์หรือฉีดสารเข้าทางช่องคลอด2. เหน็บยา3. กินยา4. เหยียบเตะต่อย(อันนี้ที่จริงมักทำกันเองที่บ้าน)1. ใส่อุปกรณ์หรือฉีดสารเข้าทางช่องคลอดเป็นวิธียอดนิยมที่ทำกันมานาน และก็เป็นวิธีที่"เลียนแบบ"แพทย์ตัวจริงมาใช้"ขูดมดลูก" อุปกรณ์ที่ใช้คือตัวขูดเนื้อยาวราวๆฟุตนึง ตรงกลางเป็นก้าน ตรงปลายจะมีลักษณะคล้ายที่ขูดมะพร้าววิธีทำคือเมื่อผู้หญิงมาถึง นั่งบนขาหยั่ง ผู้ทำแท้งจะเปิดแหวกช่องคลอดด้วยเครื่องถ่าง แล้วใช้เครื่องมือจิกปากมดลูกไว้ จากนั้นเอาที่ขูด แหย่เข้าไปขูดในมดลูกถ้าคนทำแท้งมีความรับผิดชอบต่อค่าจ้างที่ได้ เขาจะขูดตัวอ่อนออกมา แล้วก็ขูดเนื้อในมดลูกไปด้วยถ้าไม่รับผิดชอบ ก็ขูดแค่พอเห็นเนื้อๆแล้วก็พอให้กลับได้ระหว่างที่ทำอาจเจ็บได้บ้าง ขึ้นกับราคาที่จ่ายไป ถ้ามากหน่อยอาจมียาแก้ปวดอย่างแรงให้กิน (ซึ่งก็เลยเห็นเป็นภาพชินตาที่พอตำรวจบุกแล้วพวกเธอมักหนีไม่ทันกัน) แต่บางแห่งก็ให้แค่ยาแก้ปวดธรรมดามากินก่อนขูดมดลูก เพราะว่าเวลาขูดก็เอาแค่ขูดน้อยๆปัญหาที่ตามมาคือ1. เนื้อในมดลูกที่เหลือ... เพราะว่าร่างกายคนเราที่เตรียมจะมีเด็ก จะมีการขยายของพื้นที่ในมดลูกโดยเพิ่มเส้นเลือดมากๆ และมีที่ให้เด็กมาเกาะมากๆ ทีนี้พอไม่มีเด็กเพราะโดนขูดไปแล้ว เนื้อพวกนี้ก็จะพยายามหลุดลอกตัวออก แต่ฤทธิ์ฮอร์โมนที่ยังมีอยู่ อาจทำให้หลุดไม่ดีคนที่โชคดี ก็จะมีเลือดออกมาสักสัปดาห์-2สัปดาห์ กินยาสตรีต่างๆแล้วก็ขับน้ำคาวปลาออกไปได้พร้อมเนื้อรกเนื้อมดลูกคนที่โชคไม่ดี เนื้อเหล่านี้ไม่หลุดออก ก็จะมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆไม่หยุดบางคนไหลเป็นเดือนๆกว่าจะมาหาหมอบางคนไหลจนตาย(ที่จริงคงมีการทะลุมดลูกร่วม)2.1 ติดเชื้อ ตรงไปตรงมา เครื่องมือและคนทำห่วยแตก 2.2 มดลูกทะลุ .... เพราะในการขูดมดลูกที่ถูกต้อง ต้องมีการวัดขนาดและตรวจดูรูปร่างของมดลูกว่าหันไปทางทิศใดก่อนขูดเนื่องจากการขูดเป็นการทำโดยไม่เห็นด้วยตา แต่อย่าไปหวังอะไรกับคนทำแท้งเถื่อนเลย ส่วนใหญ่มักขูดไปเลย และมีไม่น้อยที่ทะลุ โชคดีก็ปิดได้เอง โชคร้ายเผลอๆติดเชื้อในท้องแบบเวลาไส้ติ่งแตกหรือกระเพาะทะลุก็มีที่ร้ายไปกว่านั้น บางคนที่ผมเคยเจอการทะลุจากมดลูกเข้าช่องท้องต่อไปยังลำไส้ใหญ่... เมื่อหายแล้วก็กลายเป็นว่ามีช่องทางใหม่ ทำให้อุจจาระไหลออกมาทางช่องคลอดได้ (ซึ่งผ่าซ่อมยาก)2.3 ขูดมั่วไม่โดนเด็ก เลือดออกแป๊บเดียวก็หยุด แต่ที่ไหนได้ท้องโตเอาโตเอาจนคลอดออกมาเป็นตัว2.4. สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอ(ตัวจริง)เท่าที่เคยเจอมา ที่ทำแท้งเถื่อนห่วยๆบางที่ใช้วิธีขูดมั่วซั่ว พอเป็นพิธีแล้วบอกว่าถ้าเลือดไม่หยุดให้ไปหาหมอ.. ส่วนใหญ่มันแค่เอาเครื่องมือสอดแล้วขูดครั้งสองครั้ง เอาเนื้อชิ้นโตๆมาชิ้นเดียวแล้วปล่อยภาระให้เป็นของแพทย์ตัวจริงส่วนใหญ่มักจะมีอาการมาด้วยเรื่องเลือดไหลออกทางช่องคลอด พร้อมกับเรื่องเล่าแปลกๆถ้าเป็นสิบปีก่อน ก็จะเล่าว่าเดินข้ามท้องร่องแล้วลื่นไม้กระดานฟาดกลางหว่างขาเดี๋ยวนี้ก็เป็นล้มในห้องน้ำ ขับรถเครื่องแล้วเบรกแรงๆ ตกบันไดผมจะบอกว่า ถ้าคุณไปทำแท้ง ก็บอกว่าไปทำแท้งเถอะครับ เพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ปลอดภัยทั้งตัวคุณเองและคนที่ให้การรักษาเคยมีกรณีที่เด็กบอกว่าหกล้มในห้องน้ำแล้วเลือดออก แม่ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงเห็นกับตา แต่ว่าไปๆมาๆเกิดปวดท้องไข้สูง และก็ติดเชื้อในช่องท้องจากการที่มดลูกทะลุและมีการติดเชื้อ..... ซึ่งการติดเชื้อระดับนี้ เวลาคุยกับญาติ เราไม่ได้คุยว่าจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่นะครับ แต่เราคุยว่าโอกาสตายมีมากเพียงใดถ้ารู้ว่าไปทำแท้งมาและเลือดออกไม่หยุด ส่วนมากก็จะขูดต่อให้เสร็จสรรพเพื่อรักษา และจะได้ให้ยาทั้งหลาย ทั้งยาฆ่าเชื้อและวัคซีนบาดทะยักการทำก็คล้ายกับที่เล่าไปแล้ว คือก็จะใช้เครื่องมือดันเปิดทาง แต่จะมีเครื่องวัดขนาดภายในมดลูก และมีการตรวจทิศทางของมดลูกเพื่อจะได้ใส่เครื่องมือได้ถูก จากนั้นก็จะค่อยๆขูดโดยใช้วิธีที่ถูกต้องเพื่อให้ได้เนื้อออกมาให้ครบถ้วนที่สุดเพื่อเลือดจะได้หยุดไหลนอกจากนี้ยังมีวิธีทำแท้งโดยใช้การฉีดยาหรือสารบางอย่างเข้าไป เช่นฉีดน้ำเกลือเข้าไปรอบๆทารกให้ทารกขาดน้ำตาย หรือฉีดสารพิษให้ทารกแต่การทำแท้งวิธีนี้เสี่ยงต่อแม่มาก เพราะหลายครั้งผู้ทำแท้งก็ฉีดมั่วจนตายทั้งแม่ทั้งลูกปัจจุบันก็เลยเจอลดลง เหน็บยาวิธียอดฮิตที่มีที่มาจากการที่พบว่ายารักษาโรคกระเพาะตัวนึงเมื่อกินเข้าไปทำให้แท้งได้บ่อย และต่อมาก็พบว่ายานี้ออกฤทธิ์ที่มดลูกได้ต่อมาก็มีคนเอามาใช้เพื่อการทำแท้ง และต่อมาอีกก็นำมาใช้ในการเร่งคลอดให้ปากมดลูกเปิดได้เร็วขึ้นปัญหาที่ทำให้หมอไม่ชอบใช้ยานี้ทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย มีดังนี้คือท้องอ่อนๆ หมอชอบทำแท้งให้เพราะอันตรายน้อยกว่าและเด็กยังเล็ก แต่ยานี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลมดลูกไม่หดปากมดลูกไม่เปิดท้องมากๆ หมอไม่ชอบทำแท้ง แต่ยาดันใช้ได้ผลดีขึ้น เด็กไหลดีนักแต่หมอจะฝันร้าย เพราะว่าเด็กที่หลุดออกมาจะยังมีชีวิต ดิ้นได้ และจะดิ้นอย่างสุดฤทธิ์ก่อนตาย บางคนดิ้นเป็นชั่วโมงยาตัวนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้รับทำแท้งและคนขายยานอกคอก เนื่องจากขายในราคาเม็ดละ700-1400บาท เวลาใช้มักขายทีละสองเม็ดโดยที่ต้นทุนไม่ถึง10บาท กำไรเหนาะๆ และไม่ต้องเสี่ยงถูกจับเท่าเปิดร้านหลายครั้งที่มีคนมาด้วยเรื่องตกเลือด พอตรวจไปก็เจอว่ามียาที่ยังละลายไม่หมดเหน็บอยู่ (แต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธว่านั่นน่ะยาเหน็บแก้เชื้อรา..)ข้อเสียนอกจากเด็กตายแบบดิ้นๆ ยังมีอีกคือ Amniotic pulmonary embolismซึ่งเป็นภาวะอันเกิดจากการที่มดลูกบีบรัดแรงแล้วทำให้น้ำคร่ำไหลเข้ากระแสเลือด แล้วไปอุดตันที่ปอดของแม่จนแม่ขาดอากาศตายซึ่งภาวะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วแม้คลอดปกติ และช่วยเหลือยากมากแม้อยู่ในมือหมอ ข่าวดังๆที่หาว่าหมอทำคลอดไม่ดีแล้วแม่ตาย ก็มีส่วนมาจากอันนี้เหมือนกัน นี่ขนาดบางคนอยู่ในโรงเรียนแพทย์และมีหมอสิบกว่าคนยื้อชีวิตยังเอาไม่อยู่ถ้าเกิดใครไปเหน็บยาตัวนี้เข้าแล้วเกิดAmniotic pulmonary embolismขึ้นล่ะ รอดยากครับ ก็คงตายเงียบๆในบ้าน(แต่ก็ไม่ได้เกิดบ่อย)3. กินยา วิธีสุดคลาสสิก เห็นในหนังไทยที่คุณหญิงย่าบังคับให้นางอิจฉาเอายาขับเลือดกรอกปากนางเอก กรอกเสร็จแล้วจะเกิดอาการปวดท้องแล้วก็มีเลือดไหลออกทางหว่างขาผมได้เจอเด็กคนนึง กินยาสตรีและยาขับเลือดลมหลายขนานในท้องตลาดหลังจากที่รู้ว่าท้อง... กินอยู่5เดือน จนค่ายารวมๆแล้วแพงกว่าค่าทำแท้ง เธอก็เลยเปลี่ยนไปซื้อยามาเหน็บ เด็กจึงออก.... สรุปแล้ว ผมยังไม่เคยเห็นยาขับเลือดที่ใช้ได้ผล มีแต่คนโน้นคนนี้มาบอกเท่านั้น4. เหยียบ เตะ เข่า ศอก นวดวิธีที่อ้างว่าได้ผล.... คงได้ผลกันบ้างแลกกับการเจ็บตัวพอสมควรของแม่เด็กเป็นวิธีที่ผมไม่เคยได้ประสบหรือเจอใครที่เอาตัวเข้าแลกขนาดนั้น... เห็นแต่ในหนัง ที่กลิ้งตกบันไดแล้วเลือดออกแต่เรื่องที่ยืนยันว่าเข่าและเท้าเอาเด็กออกได้ก็มี เป็ฯเรื่องของครอบครัวนึง แม่ตั้งท้องแฝด ตั้งท้องได้7-8เดือน พ่อก็ทะเลาะกับแม่แล้วเตะต่อยท้อง....... จนแม่ปวดมาก และเมื่อทนไม่ไหวก็ไปโรงพยาบาลชุมชนขนาด30เตียง แล้วเด็กก็เริ่มคลอดแบบมันทีที่ไปถึงโดยที่หมอยังไม่ทันตั้งตัว เด็กออกมาได้1คน แต่อีกคนคาอยู่ออกยาก และในที่สุดเด็กออกมาก็แย่ทั้งคู่เนื่องจากคลอดก่อนกำหนดและคนน้องก็แย่เพราะขาดอากาศเรื่องนี้ พ่อเด็กเอาเรื่องหมอ หาว่าหมอฝีมือแย่ทำให้ลูกเขาแย่หายใจไม่ได้... เอาเรื่องไปลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น... จนที่สุดหมอต้องจ่ายเงินให้ไปหลายแสนทั้งที่ไม่ผิดเรื่องนี้บอกให้รู้ว่า การกระแทกแรงๆเหล่านี้ หากเป็นอายุครรภ์น้อยๆ มักแท้งยากหน่อย เพราะว่าตัวอ่อนมีเกราะหนาเมื่อเทียบกับขนาดตัวอ่อน แต่พอเป็ฯอายุมากๆ ก็จะโดนแรงกระแทกโดยตรงได้มากโอกาสที่เด็กจะแย่ก็มีมาก และเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจากมือจากเท้าแบบนี้ก็มีได้ และตายจากการหายใจไม่ออก(ปอดยังเจริญไม่พอ)วันนี้คุยเรื่องวิธีการทำแท้งก่อนนะครับ มาต่อด้วยเรื่องผลเสียผลข้างเคียงและผลแทรกซ้อนจากการทำแท้ง
เอาล่ะครับ เรามาต่อจากกระทู้ที่แล้วกันเถอะ เรามาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากเด็กได้จากไปแล้วกันผลสืบเนื่องที่ตามมาหลังการทำแท้งเถื่อนแบบใช้อุปกรณ์นอกจากเรื่องที่จะเกิดขึ้นในระยะใกล้ๆที่ได้เล่าไปในกระทู้ที่แล้ว สิ่งที่อาจเกิดตามมาได้และเป็นปัญหาสำคัญที่ตามไปตลอดคือ ปัญหาการมีบุตรยากมดลูกประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้คือ ปากมดลูก ตัวมดลูก ปีกมดลูกเวลาใส่อุปกรณ์จะโดนปากมดลูกและปีกมดลูก หากทำรุนแรงก็อาจเกิดการฉีกขาด เนื่องจากว่าในระยะตั้งครรภ์นั้นส่วนเหล่านี้จะนุ่มกว่าปกติเมื่อฉีกขาด ร่างกายของมนุษย์ก็จะมีการซ่อมแซมตนเองการฉีกขาดที่ปากมดลูก จะทำให้เกิดแผลเป็นที่ปากมดลูก หากต่อไปมีการตั้งครรภ์อีกครั้ง ก็มีโอกาสที่จะเกิดการแท้งได้ในช่วงเดือนที่3-4จากการที่ปากมดลูกไม่แข็งแรงพอหรือเมื่อคลอดในครั้งต่อไปทางช่องคลอด ก็อาจเกิดเลือดออกมากผิดปกติการฉีกขาดมากๆในโพรงมดลูก เมื่อร่างกายซ่อมแซมก็จะเกิดการเชื่อมติดกันของแผล โพรงมดลูกอาจเชื่อมติดกัน จนทำให้ต่อไปตั้งครรภ์ไม่ได้เพราะไม่มีช่องให้เด็กอยู่การติดเชื้อในมดลูกหลังการทำ อาจลามไปสู่ปีกทั้งสองข้าง และเมื่อการติดเชื้อผ่านไป ก็อาจทำให้ท่อทั้งสองข้างตีบหรือตัน ก็มีลูกยากผลสืบเนื่องจากการใช้ยายาทุกชนิดในค่ายยาตะวันตก มีลักษณะคือ มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้เห็นๆผลข้างเคียงระยะสั้นๆที่มีของยาพวกนี้คือ คลื่นไส้อาเจียนไประยะหนึ่ง ซึ่งผลสืบเนื่องที่ตามาก็คือ ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีและแย่ติดตัวไปนาน เนื่องจากทำให้กลายเป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายมากขึ้นผลสืบเนื่องระยะยาวที่น่ากลัวก็มีพวกตับอักเสบ ที่อาจเกิดขึ้นได้ฟังเท่านี้อาจรู้สึกหดหู่ใช่ไหมครับแต่อย่าพึ่งหดหู่เลย เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนที่ทำแท้ง ดูเหมือนธรรมชาติยังให้โอกาสคนได้กลับตัว เพราะผลที่เกิดขึ้นพวกนี้มักเกิดในคนที่ทำหลายๆครั้งมากกว่าคนที่ทำครั้งเดียว และในคนที่เป็น หลายๆอย่างก็พอมีทางแก้ไขหากตั้งใจจริงประโยคข้างต้นนี้เคยมีอาจารย์บอกผมไว้อย่างนั้น ทำให้พอผมมองดูใหม่ด้วยมุมมองใหม่ เลิกความคิดตัดสินคนอื่นไปเลยทุกปัญหามีทางออกผมไม่ได้เป็ฯจิตแพทย์ และคงไม่อาจหาญให้คำแนะนำทางจิตวิทยาได้ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่รู้หลังจากทำงานก็คือ ทุกปัญหามีทางออกครับKeywordคืออย่างน้อยที่สุด เราทุกคนต้องมีคนที่เป็นห่วงเราคนใกล้ตัวที่สุดคือพ่อแม่เด็กคนที่มาหาผมคนล่าสุดในเรื่องทำแท้ง มีแม่มาด้วย...ในกรณีการทำแท้งเป็นปกติที่ผมจะไม่พูดคุยกับเด็กในขณะที่อยู่กับแม่ และจะไม่คุยกับแม่ให้เด็กเห็น สิ่งหนึ่งที่จับได้คือ เด็กกลัวแม่ไม่รัก เด็กกลัวแม่เกลียด เด็กเสียใจที่ทำให้แม่เสียใจและอีกด้านนึงที่จับความรู้สึกได้คือ แม่กลัวเด็กตาย กลัวลูกสาวกลัวตัวเอง(แม่)สรุปว่า กลัวอีกฝ่ายไม่สบายใจ -_-''หรือเรื่องสุดclassicที่เคยได้ยินมา เด็กมาโรงพยาบาลด้วยเรื่องแบบนี้ และครอบครัวมากันหมดพ่อ แม่ ปู่ ย่า (หรือตายาย) ผลัดมาถามหมอว่าเด็กเป็นอะไรทุกคนบอกว่าอย่าบอกใครว่าเด็กเป็นอะไร(และขอให้ทำเป็นบอกญาติๆต่อหน้าเด็กว่าไม่ได้เป็ฯอะไรมาก เลือดไหลธรรมดา)ส่วนเด็กก็ไม่อยากให้คนในครอบครัวรู้ กลัวเสียใจสรุปว่าทุกคนกลัวคนในครอบครัวเสียใจ....ก็เป็นความรักแบบครอบครัวไทยที่น่ารักดีไปอีกแบบส่วนเรื่องการป้องกัน1. ใช้ถุงยางทุกครั้ง (ผมไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกนะ เพราะโพรงมันวางในSeven)เพราะส่วนใหญ่ของคนที่พลาด จะไม่ได้ใช้ถุงยางและหลั่งข้างนอก โอกาสพลาดมีดังนี้คือก. เผลอหลั่งข้างในข. ไม่รู้ว่าน้ำใสๆที่หลั่งออกมาก่อนของผู้ชายน่ะ ที่จริงก็มีเชื้ออสุจิอยู่ ดังนั้นยังไม่ถึงก็ท้องได้ค. หลั่งเปื้อนข้างนอกแล้วไม่ล้าง มันก็ว่ายเข้าไปดิ2. เลิกได้ก็ดี นับวัน น่ะหน้า7หลัง7 ไม่เห็นนับถูกเลย.. นับผิดประจำ3. เอาเครื่องขายถุงยางอัตโนมัติให้ลับหูลับตาคนหน่อยในโรงพยาบาลที่ผมอยู่มีเครื่องนี้สองเครื่อง เครื่องแรกตั้งหน้าห้องน้ำ อีกเครื่องตั้งที่หน้าห้องยา(ที่มีคนตลอด)เนื่องจากคนที่มีปัญหาทำแท้งที่อายุน้อยก็มีมาก ก็ไม่แปลกที่จะไม่กล้าซื้อถุงยางในร้านสะดวกซื้อ ผมก็เคยเห็นเหมือนกันที่เด็กมัธยมที่มาฝึกงาน
เรื่องเล่าหลังทำแท้ง
ดิฉันไปทำแท้งมาเมื่อวานนี้คะ รู้สึกเจ็บไปทั้งกายและใจมากๆ คิดอยู่เสมอว่าไม่อยากเอาลูกออกเพราะยังไงคนเลวๆอย่างดิฉันก็ยังมีความรู้สึกของคนเป็นแม่อยู่บ้าง แต่เนื่องจากดิฉันยังต้องเรียนอยู่และยังเด็กมากๆไม่พร้อมแน่ๆที่จะรับภาระของผู้เป็นแม่ได้
ดิฉันจึงลองหาข้อมูลสถานที่รับทำในเวปนี้มาได้ 2 ที่คือที่....กับที่ ..... ดิฉันได้ไปที่.....ก่อนปรากฏว่าข้อมูลไม่ตรงนะคะ ดิฉันท้องได้ 2เดือนครึ่ง เค้าบอกมาว่าใช้วิธีเหน็บยาไม่มีวางยาสลบและค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 17000 บาท ต้องนอนที่รพห้ามญาติมาเฝ้าและเยี่ยมด้วย ดิฉันจึงลองไปที่.... ดู ก็ค่าทำอยู่ที่ 1950 พนักงานทุกคนใจดีมากๆคะ
ตอนที่ดิฉันเข้าไปในห้องทำแท้งจิตใจดิฉันแย่มากๆมือเย็น ตัวสั่น หูอื้อไปหมด พอคุณหมอเดินมา วูบนึงที่ดิฉันอยากหนีออกไปจากห้องนี้เหลือเกิน พอคุณหมอเริ่มลงมือดูดเอาลูกของดิฉันออกไป ดิฉันเจ็บปวดมากมันไม่ได้ปวดที่ร่างกายอย่างเดียวมันเจ็บทั้งจิตใจด้วย เพราะดิฉันคิดว่าดิฉันเจ็บแค่ไหนลูกของดิฉันก็จะเจ็บกว่าล้านเท่าดิฉันจึงยิ่งรู้สึกแย่จนเผลอสะอื้นออกมาจนคุณหมอดุเลยล่ะ ที่ดิฉันอ่านมามีคนบอกว่าเจ็บนิดเดียวเหมือนมีเมนบ้างล่ะ เจ็บแค่ไม่กี่นาทีบ้างล่ะ แต่สำหรับดิฉันมันอาจแค่ไม่กี่นาทีในความเป็นจริง แต่ในจิตใจของดิฉันนั้นมันนานมากๆ พอทำเสร้จพี่พนักงานก้ผยุงดิฉันไปที่เตียงแต่ดิฉันหน้ามืดจนเป็นลมกลางทาง พี่พนักงานจึงเอาแอมโมเนียมาให้ดม ดิฉันจึงลุกขึ้นและเดินกลับไปพักที่เตียงได้ ระหว่างนั้นดิฉันทุกข์ใจมากที่สุดในชีวิตดิฉันได้ทำไปแล้วดิฉันฆ่าลูกตัวเองไปแล้ว ดิฉันทรยศต่อคำว่า"แม่" เด็กคนนั้นอุตส่ายอมมาเกิดในตัวดิฉันที่แสนเลวได้ แต่ดิฉันกลับไปฆ่าเด็กคนนั้นตายเสียแล้ว แล้วแบบนี้ในอนาคตข้างหน้าเมื่อดิฉันพร้อมที่จะมีลูกบ้าง แล้วใครจะยอมมาเกิดกับดิฉันที่ทำร้ายลูกตัวเองได้ล่ะ ถึงก่อนที่จะไปทำแท้งดิฉันได้ไปทำสังฆทานขออโหสิกรรม และขอให้ลูกรอเมื่อดิฉันพร้อม แต่มันก็ยังรุ้สึกแย่อยู่ดี พอถึงบ้านดิฉันร้องไห้ตลอดทั้งคืน ยังไม่หยุดเลยแม้กระทั่งตอนนี้ มันเอ่อล้นมาตลอด แม้ดิฉันจะทำใจเมื่อรู้ว่าท้องและต้องทำแท้งอยู่มาแรมเดือน แต่ก้ยังรู้สึกไม่ดีมากๆในสิ่งที่ทำลงไป ดิฉันคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานซ้ำไปซ้ำมาตลอด ถึงในเวลานี้เค้าจะไม่ได้อยู่ในตัวของดิฉันแล้ว แต่เค้าก้ยังอยู่ในใจดิฉันเสมอ ดิฉันรู้ตัวในสิ่งที่ทำไปมันเป็นบาปที่ไม่น่าให้อภัยที่สุด แต่นี้คือบทเรียนอันมีค่ามากที่สุดของดิฉัน มันทำให้ดิฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างน้อยดิฉันก็เข็ดเรื่องsexไปอีกนาน และจำเรื่องเมื่อวานไปจนตาย
"ผลกรรมของการทำแท้ง"
"การแก้กรรม ในการทำแท้งที่ดีที่สุดคือ''
ทำแท้ง….กรรมมีจริงนะ
ท้องมันใช้อารมณ์กับความมันส์ แต่ทำแท้งต้องเสียเงิน เสียน้ำตาและเสียความรู้สึก แถมยังเจ็บตัวหรืออาจถึงตายได้” คิดให้ดีการจะทำอะไรลงไป กรรมมีจริงนะ เราไม่ได้สนับสนุนให้เกิดการทำแท้งขึ้น แต่เป็นการช่วยแบ่งเบากรรม และสร้างความสบายใจให้แก่คนที่พลาดพลั้งไปในชีวิต จะเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี เราไม่ได้หวังว่าจะส่งเสริมให้คนทำมากขึ้น แต่เป็นการแก้กรรมที่ถูกต้องที่ดีที่สุด เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และได้รับประโยชน์สูงสุด สำหรับการแก้กรรมนี้ ใช้ได้ทั้งคนที่ไปทำแท้ง คนที่สนับสนุนการทำแท้ง เช่น แฟนของผู้หญิงที่ท้อง พ่อแม่ของผู้หญิงที่ท้อง และก็เพื่อนที่พาไปทำหรือแนะนำสถานที่ไปทำแท้ง ทุกคนที่กล่าวมานี้ล้วนมีกรรมในการกระทำครั้งนี้ ทางเราขอย้ำว่า เราไม่ได้สนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดการทำแท้ง แต่เราต้องการให้แก้กรรมโดยถูกวิธีที่สุด•การตักบาตรเป็นการสั่งสมบุญไปใช้ชาติหน้าไม่มีผลต่อการแก้กรรมในการทำแท้ง•การทำสังฆทานเป็นการใช้กรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวรไม่มีผลต่อการแก้กรรมทำแท้ง
การแก้กรรมในการทำแท้งที่ดีที่สุดคือ
1.ต้องตั้งจิตอธิฐานว่า ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จะไม่ทำแท้งอีก การแก้กรรมครั้งนี้ถึงจะได้ผล
2.ต้องบริจาคร่างกาย
3.ต้องบริจาคอวัยวt
4.ต้องบริจาคเลือดอย่างน้อย 7 ครั้ง
5.ต้องบริจาคเงินเพื่อไถ่ชีวิตโค – กระบือ
6.ซื้อเครื่องมือแพทย์ บริจาคให้กับตามโรงพยาบาล
•ถ้าให้ดีที่สุดควรทำทุกอย่าง แต่ถ้าไม่มีความสามารถให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง รับรองว่าได้ผล 100 % แต่ต้องยึดมั่นข้อที่ 1 เป็นหลักคือ ไม่กลับไปทำแท้งอีก จึงจะได้ผล •เมื่อท่านทำวิธีแก้กรรมครั้งนี้แล้ว ถ้ากลับไปทำแท้งอีกผลกรรมจะกลับมาหาท่านหลายร้อยเท่า พันเท่า •และหลังจากที่ได้ทำบุญทุกอย่างแล้ว ท่านต้องกลับมาจุดธูป 16 ดอก เพื่อขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรและเจ้าบุญนายคุณ และขอพรหลังจากอโหสิกรรมแล้ว ท่านจะสมหวังทุกประการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น