วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

เตือนภัยวัยรุ่น...

เตือนภัย : สถานที่ไหนที่ไม่ควรอยู่คนเดียว

>>> ขึ้นแท็กซี่คนเดียว :: แท็กซี่เดี๋ยวนี้มีทั้งดีและร้านปะปนกัน ถ้าน้องๆ เห็นวี่แววแล้วว่าไม่น่าไว้วางใจ ให้น้องๆ ระวังตัวไว้เลย วิธีของคนขับที่ไม่ประสงค์ดีคือการพยายามปล่อยสารหรือยาบางอย่างซึ่งเค้าจะทาไว้ที่มือให้แอร์เป่ามาด้านหลัง ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารเกิดการมึนงงและสลบไปได้

>>> ขึ้นลิฟท์ :: ในลิฟท์ที่อำนวยความสะดวกในการขึ้นลงอาคารสูง แม้เพียงชั่วพริบตาเดียวน้องๆ ก็ไม่ควรประมาทนะคะ เพราะผู้โดยสารร่วมลิฟท์ในยามวิกาลอาจจะเป็นผู้ร้ายที่ทำมิดีมิร้ายเราก็ได้ ยิ่งเป็นลิฟ์ที่อยู่ในอาคารสูงมากๆ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสทำให้ผู้ร้ายมีเวลาปฏิบัติการมากขึ้น

>>> ข้างถนน :: ส่วนใหญ่เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิง เพราะด้วยนิสัยใจดีเห็นใครเดือดร้อนก็อยากจะให้ความช่วยเหลือ มิจฉาชีพจึงใช้ความใจดีนี้ล่อลวงให้เหยื่อมาติดกับ

>>> ตามห้างสรรพสินค้า :: คนร้ายมักจะสรรหาวิธีใช้กับเหยื่อตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแอบเอายามาใส่ในอาหารขณะที่เหยื่อเดินไปซื้อน้ำ บ้างก็เอานาแต้มไว้ที่หลอดแล้วเอาหลอดไปวางไว้ที่เดิมตรงที่กดหลอด เมื่อคนมาหยิบหลอดไปใช้ก็จะได้หลอดที่มียาไป พอคนร้ายเห็นว่าเหยื่อเริ่มมีอาการเมาก็จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ และจากนั้นก็จะพาไปปลดทรัพย์หรือข่มขืน
หรือแม้กระทั่งขณะที่ใช้รถเข็นช้อปปิ้ง เมื่อเหยื่อเผลอปล่อยรถเข็นไว้ คนร้ายก็จะนำยามาป้ายตรงราวจับรถเข็น และเมื่อเหยื่อมาจับที่ราวนั้นก็จะทำให้เกิดอาการชา มึนงง และเป็นลม แล้วนั่นก็จะเป็นโอกาสที่คนร้ายจะลงมือกับเหยื่อ

>>> แม้แต่ในที่พักของเราเอง :: ไม่หน้าเชื่อว่าบ้านหรือหอพักจะเป็นอีกสถานที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุร้ายได้ เพราะหลายคนคิดว่าบ้านน่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด แต่เมื่อใสที่เหยื่อพักอยู่คนเดียวตามลำพัง คนร้ายอาจสบโอกาสเข้ามาชิงทรัพย์ หรือทำร้ายร่างกายได้
วิธีการป้องกันที่สุดคือ มีความจำเป็นต้องอาศัยหอพัก ควรเลือกหอพักที่อยู่ในเขตชุมชนและมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ควรตรวจสอบกลอน ประตู หน้าต่างให้ดี และที่สำคัญควรติดตั้งกลอนประตูแบบมีโซ่คล้อง เพื่อไม่ให้คนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายในเราถึงในห้องได้ระหว่างที่คุยกัน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

จากการอบรม เรื่องเกี่ยวกับการทำ GMP ของโรงงานผลิตอาหารต่างๆ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Clean food มีเกร็ดต่างๆมาเล่าให้ฟัง เลยสรุปมาเล่าสู่กันฟัง พอเป็นสังเขป จริงๆ มีมากกว่านี้
1. พวกขนมปังปี๊บ กระบวนการผลิตบางแห่งไม่ดี ไส้สับปะรด เป็นมันแกวหรือพืชอื่น ๆ กวนใส่น้ำตาลและใส่กลิ่นกับแกนสัปปะรดไปนิดหน่อย
2. เชอรี่บนขนมเค้กราคาถูกตามตลาดสด คือ มะเขือเปาะฟอกสีจนใสเป็นวุ้น แล้วย้อมสีแดง (ผงฟอกสีทำให้เป็นโรคไต) พวกที่ใช้สารฟอกสีอื่นๆ เช่น มะม่วงกวน (แผ่นใส ๆ) ยอดมะพร้าวขาว ๆ
3. ซูชิ ในตลาดนัดที่อากาศร้อน แบคทีเรียจะเจริญเติบโตเร็ว ชูชิต้องเสริฟเย็นเท่านั้น
4. เอแคลร์กับลูกชุบ หรือขนมอะไรที่ต้องมีการปั้น ๆ ถู ๆ ต้องพึงระวังสุขอนามัย ควรซื้อกับร้านค้าที่รู้จักหรือมีชื่อเสียงเท่านั้น
5. ลูกอมสีอื่น ๆ เช่น ฟ้า เขียว ม่วง เป็นสีที่ขาย ไม่ด ีไม่ควรซื้อเพราะใช้สีที่เก็บไว้นาน ทานลูกอมสีแดง ขาว ได้
6. ปลายหน้าร้อนต่อต้นหน้าฝน ไม่ควรกินอาหารทะเล เพราะฝนเริ่มตกจะชะฝุ่นบนพื้นดินลงทะเลและสัตว์ทะเลจะกินเข้าไป จะมีแต่ไวรัส แบคทีเรีย โอกาสท้องเสียมีสูง
7. พวกอาหาร Pack สำเร็จมา wave ที่บ้าน wave ได้ครั้งเดียวเท่านั้นไม่ควรล้าง Package มาใส่ wave ซ้ำเพราะสารพิษจะออกมา
8. โยเกริ์ตต่างๆ จะมีแป้งผสมอยู่ประมาณ 20% ควรทานโยเกริ์ต Home made ถ้วยเล็ก ๆ (ลองหยดไอโอดีนพิสูจน์ดูก็ได้ จะพบว่าโยเกริ์ตเป็นสีน้ำเงิน)
9. น้ำปลาเปิดขวดแล้ว ควรมีอายุการใช้ไม่เกิน 1 เดือน
10. ระวังเชื้อราตามคอขวดที่เปิดแล้วต่าง
11. กระดาษหนังสือพิมพ์ อย่าเอามาห่อผักแช่ตู้เย็น (มีสารพิษ จากหมึก)
12. อาหารกระป๋อง ถ้าใช้ไม่หมดควรเอาออกจากกระป๋องใส่ภาชนะอื่นแช่ตู้เย็น
13. ฟองน้ำล้างจานที่มีน้ำยาผสมน้ำทิ้งไว้ (เป็นน้ำๆ) ทิ้งไว้ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แบคทีเรียจะขึ้น ควรเททิ้งไป
14. อาหารหมักดอง ต้องระวังมีไวรัสที่ทำลายกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผักกาดดองตามท้องตลาดในโรงงานบางแห่งจะมีกระบวนการผลิตที่ไม่สะอาด (ใช้คนลงไปในอ่างดอง เราไม่แน่ใจว่าคนนั้นๆ มีโรคหรือไม่) ควรใช้ผักกาดดองกระป๋องที่เชื่อถือได้
15. เบียร์สด จะไม่ถูกกรองยีสต์ที่ตายแล้วออก เราจะกินศพยีสต์เข้าไปด้วย (เบียร์ขวดจะถูกกรองไปแล้ว) แต่กินได้ ไม่เป็นไร

เตือนภัยวัยรุ่นติดเน็ตอันตราย..

อย่างที่เราทราบกันดีว่า “อินเตอร์เน็ต” นั้นเหมือนดาบสองคม สามารถให้ทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์แก่ผู้ที่ใช้ได้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้นั้นจะมีวิจารณญาณในการใช้ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าในช่วงของวัยรุ่นแล้วการใช้อินเตอร์เน็ตนั้นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสียงที่จะสร้างปัญหาให้กับวัยรุ่นได้เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลสำรวจจากประเทศออสเตรเลียออกมาว่า พ่อแม่ชาวออสเตรเลียนกำลังมีความเป็นห่วงลูกหลาน หลังจากมีข่าวเด็กวัยรุ่น "ฆ่าตัวตาย" เพราะถูกกลั่นแกล้ง รังแก ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือโทรศัพท์มือถือ
ข่าวเด็กหญิงชาวเมืองเมลเบิร์นวัย 14 ฆ่าตัวตาย และแม่ของเด็กหญิงกล่าวโทษว่าเป็นเพราะลูกสาวถูกคุกคามทางอินเตอร์เน็ต โดยก่อนจะเสียชีวิตลูกสาวได้เล่าให้เธอฟังว่ามี "ข้อความ" ที่เขียนถึงตัวเธอในทางเสียหาย และได้ไปโผล่ในอินเตอร์เน็ต ทำให้เธอเครียดมาก และอยากฆ่าตัวตาย กลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ การข่มเหง รังแกผ่านโลกไซเบอร์ กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา และทำให้มีการสำรวจตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งจากผลสำรวจในเด็ก 200,000 คน พบว่ามีอยู่ 10% ที่บอกว่าเคยโดนรังแก รังควานแบบนี้มาแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวมีนักจิตวิทยาหลายคนได้ออกมาให้ความเห็นว่าเด็กๆ ผู้ตกเป็นเหยื่อมีแนวโน้มที่จะมีความเครียด วิตกกังวล และสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง อันนำไปสู่ความคิดอยากฆ่าตัวตาย
ส่วนเด็กและวัยรุ่นที่ตกเป็นเหยื่อเล่าว่า การกลั่นแกล้ง รวมทั้งข่าวลือต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกเขา มันทำให้เขารู้สึกว่าถูกทำลายชื่อเสียง รู้สึกว่าอาจมีคนไม่ชอบพวกเขา โดยมันทำลายชีวิตเขาทั้งทางสังคม อารมณ์ จิตใจ
นอกจากนี้ในผลสำรวจยังกล่าวว่า หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่พบจากการสำรวจครั้งนี้ก็คือ เด็กๆ รู้สึกว่าผู้ใหญ่ไม่ได้มองปัญหาภัยคุกคามทางโลกอินเตอร์เน็ตอย่างซีเรียสจริงจัง


เตือนภัยวัยรุ่นซกมก นิยมขาเดฟ เสี่ยงเกิดเชื้อรา

ดูเหมือนแฟชั่นการใส่เสื้อผ้าไซล์เล็ก หรือกางเกงยีนขาแคบ หรือ ขาเดฟ จะยังเป็นเทรนด์แฟชั่นที่ครองใจวันรุ่นไทยไปอีกนาน ใครขาเล็กขาใหญ่ ตัวอ้วนตัวผอมก็ต้องไปหาวิธี ลับ ลวง พลางเอาเอง แต่ที่แน่ ๆ นอกจากแฟชั่นดังกล่าวจะให้ความสวยงามกิ๊ฟเก๋ในมุมมองของใครหลายคนก็ตาม แต่เทรนด์แฟชั่นนี้ก็สร้างความวิตกให้คณะแพทย์ผิวหนังไม่น้อยจากอาการรัดติ๋วของเสื้อผ้าวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน
ล่าสุด นพ. จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเตือนวัยรุ่นที่นิยมสวมกางเกงขาเดฟว่า อาจเสี่ยงต่อ การเกิดปัญหาเชื้อรา เนื่องจากเนื้อผ้าที่รัดแน่นแนบเนื้อตามขา จนไม่มีที่ระบายอากาศอาจทำให้เกิดการเสียดสี เป็นรอยถลอกตามผิวหนัง และเมื่ออยู่ในสภาพที่อับชื้นซึ่งอาจเกิดจากสภาพอากาศ เช่น ฝน หรือการรักษาความสะอาดไม่ถูกวิธี ใส่กางเกงซ้ำหลายวัน ทำให้ใยผ้าเกิดการสะสมของเหงื่อไคล จนเกิดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราในร่มผ้าได้ จึงอยากให้วัยรุ่นพิจารณาการใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับร่างกาย และรูปร่าง ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นร่างกายจนเกินไป
นพ.จิโรจ ยังกล่าวอีกว่า ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้สารฟอกสีในเนื้อผ้า และแพ้น้ำยาอัดกลีบทำให้เกิดผื่นคัน และเกิดปัญหาเชื้อราเช่นเดียวกัน ทั้งนี้โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ถือเป็นกลุ่มโรคอันดับที่ 4 ที่คนส่วนใหญ่นิยมเป็น รองจากปัญหาผื่นแพ้ ที่มาเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 โรคสิว และอันดับ 3 โรคผิวหนังอักเสบ สำหรับการรักษาไม่ควรซื้อยามารับประทานหรือทานยาเอง เนื่องจากอาจทำให้แผลลุกลาม และยากแก่การวินิจฉัยโรค และรักษาไม่หายขาด ควรพบแพทย์ซึ่งจะจัดยารับประทานและยาทา ใช้เวลาอย่างน้อย 1เดือนในการรักษาเพื่อมิให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
สำหรับลักษณะของโรคเชื้อราในร่มผ้าจะมีลักษณะคล้ายกลากเกลื้อน ขึ้นบริเวณรอบจุดที่ผิวหนังมีการเสียดสีกับเนื้อผ้าบ่อย หรือาจเป็นลักษณะรอยถลอกขึ้นขุย และผื่นตามข้อพับขา

1 ความคิดเห็น:

  1. ระวัง !! กลุ่มมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบขายของออนไลน์กันนะจ๊ะ
    เนื่องจากมีมิจฉาชีพหลายรูปแบบใช้กลโกงแอบอ้าง บัญชีนายอมร ก้องกังสดาลกุล ของเราหลอกให้ลูกค้าโอนเงินเข้ามาทางชื่อบัญชีนี้ จึงขอความกรุณาลูกค้าทุกท่านโปรดเช็คข้อมูลชื่อผู้ขายสินค้า และบัญชีให้ดีก่อนทำการโอน มิฉะนั้นท่านอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพนี้หลอกได้ ด้วยความห่วงใย ปรารถนาดีจากเรา :’)

    ตอบลบ